Skip to main content

News in:  BM | TH | CN

Berita Produk Siphonblock AFT

Siphonblock AFT, pengeluar peralatan anti-siphon untuk jentera berat, pembinaan dan jentera pertanian terkemuka di Malaysia, melalui beberapa perubahan dalam pasaran Malaysia dan menarik perhatian beberapa bisnes dalam pasaran ASEAN.

• Dengan pengenalan Biodiesel B10, Siphonblock telah menjalankan ujian untuk memastikan mereka dapat menghasilkan gasket yang boleh digunakan dengan bahan bakar Biodiesel. Ia keperluan penting bagi sesiapa yang ingin menggunakan Biodiesel, untuk memastikan tiada kebocoran bahan. Memenuhi Peraturan R34.

• Alat baru yang akan berada di pasaran adalah Siphonblock 110B3 untuk jenama-jenama China yang dipasarkan oleh Hong Seng Group dan Siphonblock 80T untuk trak TATA Prima. Oleh itu, kami menawarkan produk untuk kira-kira 99% trak di Malaysia.

• Dengan pengiklanan kami yang terkini, kami telah mendapat beberapa pertanyaan dari Filipina dan Vietnam. Bagaimanapun, kami mencari rakan kongsi di semua pasaran ASEAN terutamanya Indonesia dan Laos. Kami mempunyai rakan kongsi di Thailand sejak 2012.

Kecurian bahan api berlaku di mana-mana! Tetapi mungkin tidak di Arab Saudi - disel dilaporkan lebih murah dari air!


Untuk maklumat lanjut, hubungi:
Graham 019 553 9195 (English)
Chong 016 209 7783

Book Your Space Now to be Part of South East Asia's Largest Commercial Vehicle Exhibition

Organisers of MCVE 2021 announce new floor plan for the fifth installment of Malaysia Commercial Vehicle Exhibition and are ready to receive bookings for the upcoming show.

Date: 17 - 19 June 2021
Venue: MIECC, The Mines
Floorplan: http://mcve.com.my/exhibit/floorplan

To discuss sponsorship: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
To book your space for MCVE: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

BRK Group รับมอบยูดี เควสเตอร์ 15 คัน รองรับงานขนส่งน้ำมันปาล์ม

BRK Group รับมอบยูดี เควสเตอร์ 15 คัน รองรับงานขนส่งน้ำมันปาล์ม

 

เมื่อเร็ว ๆ นี้ BRK Group ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงชั้นนำ ได้ทำพิธีรับมอบรถยูดี เควสเตอร์ จำนวน 15 คัน   เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดน้ำมันปาล์มที่ ได้รับการกระตุ้นจากนโยบายรัฐบาล สนับสนุนให้ใช้น้ำมันปาล์มเป็นส่วนผสมของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 

ในภาพ นายชูโชติ มั่นคง (ที่ 5 จากซ้าย) ประธานกรรมการ BRK Group พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร รับมอบรถยูดี เควสเตอร์ จากทีมผู้บริหารยูดี ทรัคส์ คอร์ปอเรชั่น นำโดย มร. โจอาคิม โรเซนเบิร์ก ประธานกรรมบริษัท และมร. ฌาคส์ มิเชล รองประธานกรรมการอาวุโส และ คณะผู้บริหารยูดี ทรัคส์ประเทศไทย นำโดย มร. อีริค ลาบัท (ที่ 4 จากซ้าย) ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีรับมอบ

 

BRK Group เดินหน้าขยายฟลีทรถบรรทุกรับอานิสงส์นโยบายไบโอดีเซล B100

BRK Group เดินหน้าขยายฟลีทรถบรรทุกรับอานิสงส์นโยบายไบโอดีเซล B100

ตั้งเป้าเพิ่มรถบรรทุกในฟลีท อีก 45 คันในปีนี้เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอีกมูลค่ากว่า 270 ล้าน

พร้อมทุ่มทุนเปิดสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ในพิษณุโลกมูลค่า 60 ล้านบาท และสถานีน้ำมันแบรนด์อิสระอีกมูลค่ากว่า 20 ล้าน

BRK Group เดินหน้าขยายงานในปีนี้ โดยสั่งซื้อรถหัวลากยูดี เควสเตอร์ 15 คันเพื่อรองรับงานขนส่งน้ำมันปาล์ม ที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น สืบเนื่องจากการนโยบายสนับสนุนของกระทรวงพลังงานในการเพิ่มปริมาณการใช้ไบโอดีเซล B100 เพื่อนำมาผสมในน้ำมันดีเซล ได้แก่ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B3, B5, B7 จนถึง B10 และ B20 ในปัจจุบัน

นายชูโชติ มั่นคง ประธานกรรมการ BRK Group ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงชั้นนำ เปิดเผยว่าด้วยนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนการใช้น้ำมันปาล์มในประเทศเพิ่มขึ้น โดยกำหนดให้ส่วนผสมน้ำมันปาล์มในน้ำมันดีเซลปรับขึ้นเป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 เป็นผลให้ความต้องการใช้น้ำมันปาล์ม B100 เพิ่มสูงขึ้น กลุ่มบริษัทฯ จึงได้รับสัญญางานขนส่งน้ำมันปาล์ม B100 เพิ่มขึ้นตามมา ซึ่งจะดำเนินการโดยบริษัท มั่นคง บี อาร์ เค กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยใน BRK Group

“ทุกวันนี้ เรามีความต้องการจากลูกค้าผู้ผลิตน้ำมันปาล์มเพิ่มสูงขึ้นมาก เราจึงจำเป็นที่จะต้องเร่งเพิ่มจำนวน รถของเราในฟลีทให้สอดคล้องกับปริมาณงานที่ขยายตัว ซึ่งเราให้ความสำคัญกับลูกค้าในเรื่องของความพึงพอใจในบริการเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเราจึงไม่ลังเลที่จะลงทุนเพิ่มเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถดำเนินงานขนส่งให้สำเร็จตามเป้าหมาย สมกับที่ลูกค้าเรามอบความไว้วางใจให้กับเรา ปีนี้เราตั้งเป้าไว้ว่าจะเพิ่มรถบรรทุกเพื่อให้บริการขนส่งน้ำมันปาล์ม และน้ำมันเชื้อเพลิงอีกไม่ต่ำกว่า 45 คัน ยูดี เควสเตอร์ ฟลีทใหญ่ที่สั่งซื้อไปนี้เป็นส่วนหนึ่งในแผนการลงทุนตามแผนการขยายงาน ทั้งนี้เพราะมั่นใจในคุณภาพของรถบรรทุกที่ผลิตภายใต้การดำเนินงานของวอลโว่ กรุ๊ป และวางใจในเครือข่ายบริการหลังการขายที่มีทั่วประเทศ” นายชูโชติ กล่าว

BRK Group เป็นกลุ่มธุรกิจที่เริ่มต้นจากสถานีปั๊มน้ำมันขนาดเล็กในชุมชนเมื่อปี พ.ศ. 2532 และเมื่อต้องประสบปัญหาการขนส่งน้ำมันป้อนให้กับลูกค้าในชุมชนที่ต้องอาศัยบริษัทขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงในขณะนั้น จึงทำให้ตัดสินใจเข้าสู่ธุรกิจการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเริ่มต้นด้วยการลงทุนซื้อรถบรรทุกน้ำมัน 2 คัน เพื่อแก้ปัญหาด้านการขนส่งน้ำมันป้อนให้กับสถานีปั๊มน้ำมันของครอบครัว

จากจุดเริ่มต้นรถบรรทุกน้ำมันเพียง 2 คัน นายชูโชติได้เล็งเห็นความต้องการในงานบริการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงที่น่าจะมีศักยภาพเติบโตได้อีกมากในขณะนั้น จึงได้ขยายจำนวนรถขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้ BRK Group มีรถบรรทุกน้ำมันปาล์มและน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่า 300 คันและให้บริการขนส่งน้ำมันทั่วประเทศ

นายชูโชติ กล่าวว่า “กลุ่มบริษัทเราเอง ก็มีสถานีปั๊มน้ำมันให้เช่าอีก 5 แห่ง ซึ่งเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ให้บริการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับสถานีปั๊มน้ำมันเหล่านี้ และที่อื่น ๆ อีกทั่วประเทศ นอกจากการเติบโตของธุรกิจน้ำมันปาล๋ม เรายังมั่นใจว่าธุรกิจการให้บริการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงจะยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะปริมาณรถที่ใช้น้ำมันที่มาจากฟอสซิล จะยังคงมีใช้ในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 10 ปี”

“อย่างไรก็ตาม เราเองก็เตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนเปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหากรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มจำนวนขึ้น เราก็จะต้องมีการปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจของเราตามการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน” นายชูโชติ กล่าวเสริม

โดยในปีนี้ BRK Group จะมีการลงทุนเพิ่มอีก 60 ล้านบาทในโครงการสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ที่อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในเดือนสิงหาคมนี้ และยังมีโครงการขยายสถานีน้ำมันแบรนด์อิสระอีกมูลค่ากว่า 20 ล้าน ซึ่งคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จในปีนี้เช่นกัน

สำหรับผลประกอบการเมื่อปีที่แล้ว BRK Group มีรายได้ทั้งกลุ่มหดตัวลงประมาณ 5% ซึ่งมีสาเหตุมาจากกำลังซื้อในประเทศยังไม่กระเตื้อง ส่งผลต่อการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง โดยมียอดรายได้รวมประมาณ 500 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ด้วยอานิสงส์จากนโยบายไบโอดีเซล B100 และหากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ผ่านไปได้อย่างราบรื่น คาดว่ากำลังซื้อจะกลับสู่ภาวะปกติ และจะกระตุ้นให้ยอดรายได้ของกลุ่มในปีนี้เติบโตขึ้นอย่างแน่นอน